เปิดตัวเกจิผู้เฒ่า ๔ แผ่นดิน เพชรแท้ เมืองคนดีกรุงศรีอยุธยา
เรียนกับ หลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติ ขนานแท้
ศิษย์ทันหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค ได้วิชามามากโขเจอหลวงพ่อปานครั้งสุดท้ายบนเรือแจว เรียนวิชา หลวงพ่อเงิน บางคลาน จาก หลวงปู่เขียว วัดท้ายน้ำ หนึ่งไม่มีสองคุณครูจางวางทั่ว พาทยโกศล ครอบครูต่อเพลงให้
หลวงปู่ทองหล่อ วัดโปรดสัตว์
เสกผ้ายันต์บินว่อน เสกตะกรุดลองปืน
หลวงปู่โต๊ะวัดประดู่ฉิมพลี หลวงปู่สีวัดสะแก
หลวงพ่อหน่ายวัดบ้านแจ้ง ออกปากชมเปาะ...
นี่แหละ...ของจริงหลวงปู่พระอุปัชฌาย์ ทองหล่อ อภินนฺโท เรียนวิชากับหลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติสมัยเป็นสามเณรคะนอง วัย 15 หยกๆ 16 หย่อนๆ- เรียนวิชากับหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค หลายครั้งๆสุดท้ายหลวงพ่อปานอยู่ในเรือแจวท่านมอบคาถาเคล็ดวิชาให้- เรียนวิชากับ หลวงพ่อสด วัดปากน้ำ เจ้าตำรับธรรมกายอย่างถึงแก่น- เรียนวิชาชั้นหัวกะทิจากบรมครู หลวงปู่เขียว วัดท้ายน้ำ เพื่อน หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน-เรียนกับหลวงพ่อลือ วัดทำเลไท - หลวงพ่อถม วัดชีปะขาว- เรียนหนังเหนียวและจารตะกรุดให้หลวงพ่อบุญ วัดช่างทอง เกจิเหนียวมือหนึ่งอยุธยา- เรียนสายวัดประดู่ในทรงธรรมกับหลวงพ่ออั้น วัดพระญาติ - หลวงปู่ทองหล่อมีหลวงพ่อฟัก วัดทำเลไท ผู้เป็นพระอุปัชฌาย์และเป็นพระอุปัชฌาย์เดียวกับ หลวงพ่อพรหม วัดขนอนเหนือ ด้วย หลวงปู่เป็นพระทรงปาติโมกข์ สวดตั้งแต่พรรษาแรก ถึงอายุ 92 ปี(เลิกสวดเมื่อชราภาพมากแล้ว) เสียงใสชัดเจน ถึงกับ ได้ที่ ๑ ชนะเลิศทรงปาติโมกข์ ได้รับถวายเงิน 1,000 บาท และผ้าแพรพระราชทาน
หลวงปู่ทองหล่อ รูปนี้แหละที่สมัยหนุ่มๆ ตีระนาดเอกและได้รับครอบครูต่อระนาดเอกจาก คุณครูจางวางทั่ว พาทยโกศล ผู้ได้รับพระราชทานรางวัลชั้นหนึ่งและพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๕ พระราชทานเหรียญราชรุจิเป็นบำเหน็จรางวัล ต่อมาคณะปี่พาทย์ ลิเก มาให้หลวงปู่ครอบให้แล้วเจริญรุ่งเรืองหลายคณะ เข้าวัยชราหลวงปู่จึงเลิกครอบ
หลวงปู่ทองหล่อ วัดโปรดสัตว์ ปรมาจารย์เมืองกรุงศรี
สมณศักดิ์ที่ในหลวงพระราชทาน “ พระครูบรรหารนวกิจ” ตั่งแต่ปีพ.ศ. ๒๕๑๗ หลวงปู่ อายุ 94 พรรษา 73 มากที่สุดในอยุธยา ต้องกล่าวว่า หลวงปู่ทองหล่อ สืบวิชา สำนักวัดประดู่ในทรงธรรมอย่างแท้จริง เพราะหลวงปู่บวชตั่งแต่เป็นสามเณร ไปอยู่กับหลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติ ร่องเรือไปเรียนวิชากับหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค พออายุ 21 บวชกับหลวงพ่อฟักวัดทำเลไท เกจิอดีตเสือเก่าอยุธยา รูปร่างสูงใหญ่แบบคนโบราณ เป็นอุปัชฌาย์เดียวกับหลวงพ่อพรหม วัดขนอนเหนือ ต้องบอกว่า
อาจารย์รูปที่ 1 หลวงปู่ทองหล่อ ศิษย์หลวงพ่อฟัก วัดทำเลไทย ซึ่งเป็นอาจารย์เดียวกับหลวงพ่อพรหม วัดขนอนเหนือ ด้วย
จากนั้นไปเรียนกับ หลวงพ่อเขียว วัดท้ายน้ำผู้เป็นสหธรรมมิก กับหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน หลวงพ่อเขียวองค์นี้สร้างพระกรุสนิมแดง ปี 2461 หลวงพ่อเขียวท่านอยู่กับหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน จำพรรษาที่แพน้ำใต้ต้นโพธิ์หน้าวัดท้ายน้ำ หลวงพ่อเงิน กับหลวงพ่อเขียว เคยนั่งสมาธิเข้าฌาน เยี่ยมโยมพ่อของท่านทั้งสองด้วยกัน และยังลองตะกรุดโทน หลวงพ่อเขียวยิงไม่ออก หลวงพ่อเงินออกดังปั้งแต่ไม่มีลูกปืน หลวงพ่อเขียว มาสอน หลวงปู่ทองหล่อ และขนตำราหลวงพ่อเงินบางคลานมาสอนหลวงปู่หล่อ องค์เดียว
อาจารย์รูปที่ 2 หลวงปู่ทองหล่อเป็นศิษย์สายตรง หลวงพ่อเงินวัดบางคลาน และ หลวงพ่อเขียว วัดท้ายน้ำรูปเดียวที่ยังเหลืออยู่
จากนั้นไปเรียนวิชากับ หลวงพ่อบุญ วัดช่างทอง เกจิเก่ายุคก่อน 2500 เจ้าตำรับ “คงกะพัน มหาอุด” ขึ้นชื่อที่สุดของมณฑลกรุงเก่า คอยจารตะกรุดให้หลวงพ่อบุญ
อาจารย์รูปที่ 3 หลวงปู่ทองหล่อ ศิษย์ หลวงปู่บุญ วัดช่างทอง สายตรงวิชาแม่มณฑลกรุงเก่า ที่ปัจจุบันหาทำยาได้ยาก
หลวงปู่หล่อ เป็นศิษย์เรียนวิชาสายวัดประดู่ในโรงธรรมสายตรงถึงองค์หลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติ และเป็นศิษย์หลวงพ่อกลั่น องค์เดียวที่ยังอยู่(อายุมากถึง 94 ปี)หลังจากนั้นเรียนกับ หลวงพ่ออั้น วัดพระญาติ ศิษย์เอกหลวงพ่อกลั่น และเป็นเจ้าอาวาสวัดพระญาติทรงภูมิที่สุดแห่งอยุธยา เป็นอาจารย์ของสมเด็จพระมหาธีราจารย์ วัดชนะสงคราม และหลวงพ่อเฉลิม วัดพระญาติ อีกด้วย
อาจารย์รูปที่ 4 ,5 หลวงปู่หล่อจึงเป็นศิษย์ วัดประดู่ในโรงธรรมอย่างมิต้องสงสัย จาก หลวงพ่อกลั่น พอหลวงพ่อกลั่นมรณภาพแล้วจึง เรียนต่อจากหลวงพ่ออั้น วัดพระญาติ
ช่วงหนึ่ง หลวงปู่ทองหล่อ เดินทางเข้าพระนคร ไปเรียนวิชา ธรรมกายกับพระมงคลเทพมุนี (หลวงพ่อสด)วัดปากน้ำภาษีเจริญ เดินทางไปเรียนพร้อมกับ หลวงพ่อกัน วัดบ้านกลิ้ง อยุธยา (มรณภาพแล้ว) และยังได้เรียนสมณธรรมเจริญสมาธิวิปัสสนากรรมฐานไปพร้อมกันเป็นการฝึกอบรมจิต หลวงปู่ให้ได้มรรค ผล นิพพาน
อาจารย์รูปที่ 6 หลวงปู่ทองหล่อจึงเป็นศิษย์ หลวงพ่อวัดปากน้ำ องค์จริงขนานแท้และดั้งเดิม
อาจารย์รูปที่ 7 อาจารย์ฆราวาส คนสำคัญ คือคุณครูจางวางทั่ว พาทยโกศล ผู้คุมปี่พาทย์ของกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ และ เจ้าฟ้ากรมพระนครสวรรค์วรพินิต จางวางทั่ง ครอบและต่อระนาดเอกให้หลวงปู่ทองหล่อ
อาจารย์รูปที่ 8 หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก สอนหลวงปู่หลายครั้งหลายหน เพราะเจอกันบ่อย ได้วิชามาเยอะ
อาจารย์รูปที่ 9 หลวงพ่อนอ วัดกลางท่าเรือ ให้หลวงปู่ทองหล่อลง ยันต์มหาจักรพรรดิและ ตะกรุดคู่ชีวิตให้เพื่อเอาไปทูลเกล้าถวายเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน ตะกรุดยุคกลางๆของหลวงพ่อนอ หลวงปู่ทองหล่อนี้แหละคนลงจาร เรียนกันตอนนั้นดับตะเกียงเรียนวิชาแต่ทำไม ชาวบ้านเห็นหลวงพ่อทั้ง 2 ลอยอยู่บนหลังคากุฏิก็ไม่รู้
หลวงปู่ทองหล่อท่านเป็นคนจริงพูดตรงเสกพระได้ขลัง ทายใจบอกเรื่องเรื่องล่วงหน้าถูก เป็นเกจิอาจารย์ที่ปลุกเสกพระตั้งแต่ยุค 2500 ร่วมสมัยกับเกจิรุ่นแก่หลายองค์ เกจิรุ่นเก่าเหล่านั้นต่างยกย่องชมเชยหลวงปู่ทองหล่อ ว่ากระแสจิตดี มีพลัง เสกของได้ขลัง ถึงขนาด หลวงพ่อเมี้ยนวัดโพธิ์กบเจา หลวงปู่โต๊ะ หลวงพ่อหน่าย หลวงปู่สีห์ ออกปากชมในวิชาอาคมและพลังจิต ยกย่องให้เป็น “เสือบางปะอิน สิงห์ขนอนหลวง”
หลวงปู่ทองหล่อ ท่านเปรียบเหมือนเสือซ่อนเล็บ ที่ไม่ว่าพิธีพุทธาภิเษกใหญ่เล็กต้องมีชื่อท่าน ท่านไม่คุยไม่ค่อยพูดมาถึงก็เสกแล้วเดินกลับ เคยมีงานหนึ่งท่านมาเร็ว พอเข้าเสกแล้วเกจิหลายรูปไม่สามารถจับสายสิญจน์ต่อจากท่านได้ หลวงปู่ทองหล่อ ท่านรู้ล่วงหน้า ท่านลืมตา มาวางสายสิญจน์และกราบพระประธาน จากนั้นเกจิที่นั่งมองท่านจึงกราบท่านแล้วค่อยจับสายสิญจน์ได้ แต่หลวงปู่ท่านก็เดินกลับวัดไปแล้ว
หลวงพ่ออั้น วัดพระญาติสอนวิชาให้หลวงปู่ทองหล่อ หลวงพ่ออั้นเคยบอกว่า “หล่อ”นี่เป็นเกจิไม่ดังเปรี้ยงป้าง มีคนสองกลุ่ม ใช้คือ เสือ ปล้น กับ ยากจน เสือปล้นใช้แล้วมหาอุตม์ยิงไม่ออก แคล้วคลาด คนจนอยากรวยต้องใช้ของหลวงพ่อหล่อ เพราะ จะรวยแก ลงมนต์สีวลีเรียกลาภขึ้น
หลวงปู่ทองหล่อลงผ้ายันต์พัดโบก 2 ผืน สีขาว สีแดงติดไว้หัวนอนเทวดา มากราบไหว้หลวงปู่ขออานุภาพผ้ายันต์ผืนใหญ่ และมีอานิสงส์ให้คนที่ไปกราบท่านได้รับความสุขความเจริญ ไล่อุปสรรค์ได้สบาย หลวงปู่เสกผ้ายันต์บินได้ ใครๆก็รู้ผ้ายันต์ผืนนี้เจ๊กมาขอซื้อให้ราคา 3,000 บาทเมื่อปี 2499 คิดดูสมัยยั้นแพงขนดไหน
คนอยุธยานับถือหลวงปู่มาก เจ็บไข้ได้ป่วยไม่รู้สาเหตุต้องมาให้หลวงปู่รดน้ำมนต์ หายสนิท
หลวงปู่ทองหล่อท่านเป็นเกจิยุคเก่าแก่ เป็นเกจิมานาน สร้างเหรียญรุ่นแรกตั่งแต่ปี 2517 ครูดีสายดี พิธีใหญ่ อย่างพิธีจักรพรรดิ 2515 ต้องมีหลวงปู่ทองหล่อ พิธีวัดระฆัง สมเด็จโต ต้องมี หลวงปู่ทองหล่อ พิธีวัดพระแก้วงานหลวง มีบัญชาให้หลวงปู่ทองหล่อองค์นี้แหละเข้าไปเสก พระที่หลวงปู่ท่านสร้างเองเททองเองเสกเดี่ยวเองจะไม่ดี ได้หรอ...
อยุธยาเมืองไม่สิ้นคนดี หลวงปู่หล่อสร้างพระทั้งที ไม่เอาของดีแล้วจะเอาอะไร
เหรียญครุฑมหาจักรพรรดิ
บารมีแห่งพญาครุฑ คู่ ยันต์มหาจักรพรรดิ สู่ความเจริญรุ่งเรืองความเป็นใหญ่ความสำเร็จแห่งชีวิต พญาครุฑ เป็นเทพเจ้าสำคัญ ที่มีอิทธิฤทธิ์มาก ปราบได้ทั่วสวรรค์ แม้แต่สายฟ้าของพระอินทร์ก็ไม่สามารถ ทำอันตรายต่อพญาครุฑได้ เลื่องลือไปทั่วสามโลกธาตุ ด้วยความเก่งกาจและรู้จักอ่อนน้อมถ่อมตนของพญาครุฑผู้เป็นใหญ่จึงยอมเป็นพาหนะนำองค์พระนารายณ์
พญาครุฑ เป็นเครื่องหมายแห่งมหาอำนาจ มีฤทธิ์เดช มหาบารมี บุญญาธิการ มีอานุภาพอเนกอนันตกาล โบราณจึงนิยมสร้างพญาครุฑด้วยมงคลจักรวาลใหญ่ดังกล่าว
และที่หน้าบรรณพระอุโบสถ วัดโปรดสัตว์ที่สร้างมาตั่งแต่สมัยอยุธยา มีพระนารายณ์ทรงครุฑ ถือว่าเป็นตราสัญลักษณ์วัดหลวงมาแต่เก่าก่อน และเป็นตรามหาจักรพรรดิยิ่งใหญ่ในแผ่นดิน เหตุนี้จึงสร้าง เหรียญ เหรียญครุฑมหาจักรพรรดิ องค์พญาครุฑ ทรงองอาจ กล้าหาญ ทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส 4 ด้านธาตุทั้ง ๔ ลงตัว ยันต์จักรพรรดิตราธิราช ด้านหลังเป็นยันต์ในตำรับของสำนักวัดประดู่ในทรงธรรม สืบทอดมาแต่กรุงศรีอยุธยา สรรพคุณท่วมท้น
มีตำนานกล่าวว่า ยันต์จักรพรรดิตราธิราช เหนือกว่ายันต์ทั้งหลาย ได้ใช้บูชา ปรารถนาลาภยศจะได้สมใจทุกอย่าง มีตบะเดชเดชะมาก ศัตรูเห็นต้องกลัว ใครเห็นใครรัก ใครเห็นเกิดเมตตา เพิ่มเติมเต็มทรัพย์สมบัติ ไม่รู้จักอดอยากยากจนเลย นี่แหละพญายันต์ตามแต่ใจคิดเทอญ
พญาครุฑ รวมกับ พญายันต์จักรพรรดิตราธิราช จึงเป็นมหามงคลที่ ผู้ปรารถนา ของมงคลที่เห็นผล ทั้ง ๘ ประการจะพึงได้รับดังนี้ คือ
๑. เป็นมหาอำนาจอันยิ่งใหญ่ เป็นสิทธิอำนาจอันเฉียบขาด
๒. สามารถลบล้างอาถรรพ์และคุณไสย์ทั้งปวง ภูติผีปิศาจกลัวไม่กล้าเข้าใกล้
๓. เป็นสื่อนำความเจริญรุ่งเรือง ยศถาบรรดาศักดิ์มาสู่ชีวิตหน้าที่การงาน
๔. ปกป้องคุ้มครอง ป้องกันภัยเป็นคงกระพัน
๕. เป็นเมตตามหานิยม มีเสน่ห์ มหาเมตตาบทใหญ่
๖. นำความร่มเย็นเป็นสุขมาให้
๗. ทำมาค้าขายดีเป็นสื่อนำโชคลาภนานาประการ
๘. สัตว์ร้าย เขี้ยวงาสารพัด งูเงี้ยวเขี้ยวขอ อสรพิษไม่กล้ากล้ำกรายเข้าใกล้ เพราะเกรงตบะบารมีขององค์พญาครุฑเป็นที่สุด
ย้ำ ถึงมหายันต์จักรพรรดิตราธิราชเต็มสูตร ตาราง ๑๐๘ช่อง อักขละ ๑๐๘ ตัวเปล่งรัศมีเรียกสูตรให้มี อำนาจวาสนา เป็นใหญ่กว่าคนทั้งหลาย มีฤทธิ์มีเดช ชนะศัตรูหมู่มารรบทัพจับศึกชนะไพรีราบคาบ อีกทั้งจะช่วยพยุงหนุนดวงให้แกล่งกล้า คนคิดร้ายอุปสรรค์ขวากหนาม รอดพ้นมลทินไม่สามารถต้องกายเราได้
เหรียญพญาครุฑหลังยันต์จักรพรรดิตราธิราชจึงเป็นเครื่องรางที่ครบสูตรตำรับแท้ดั้งเดิมตามสายวัดประดู่ในโรงธรรมสาย หลวงพ่อกลั่น หลวงพ่ออั้น วัดพระญาติอย่างแท้จริง เป็นเหรียญแห่งมหาอำนาจ เหรียญแห่งฤทธิ์ เหรียญแห่งเดช เดชานุภาพ เสริมดวงเสริมมงคล ให้ไม่ตกต่ำ ไม่ล้มเหลว ล่มจม มีแต่ใหญ่โตก้าวหน้า เจริญพัฒนา ในหน้าที่การงาน รับราชการได้ดิบได้ดี ก้าวหน้าเป็นอธิบดีมีบริวาร ธุรกิจเอกชนจักเป็นผู้จัดการหัวหน้าเหนือกว่าพนักงานทั้งหลาย พ่อค้านักธุรกิจ จะปกป้องบริษัทห้างร้าน อริศัตรูคู่แข่งไม่สามารถต่อกรเทียบเทียมได้ นายหน้านายประกัน จะก้าวหน้ามีลูกค้าชั้นดีไม่คิดหนีคิดเบี้ยวด้วยเกรงอำนาจบารมีของ พญาครุฑ หลังยันต์จักรพรรดิตราธิราช ผู้เรืองเดชเหรียญนี้
สร้างเนื้อทองคำ 19 เหรียญ
สร้างเนื้อเงิน 394 เหรียญ
สร้างเนื้อนวะแก่เงิน 1,994 เหรียญ
สร้างเนื้อทองชนวน 3,994 เหรียญ
(มีหมายเลข และโค้ตกำกับทุกองค์)
เหรียญครุฑมหาจักรพรรดิ์
สร้างเนื้อนวะแก่เงิน 1,994 เหรียญ (มีหมายเลข และโค้ตกำกับทุกองค์)
รบกวนค่าส่งกลับ EMS 50 บาทค่ะ
โอนเงินผ่านบัญชี ธ.ไทยพาณิชย์ สาขาย่อยตลาดพูนทรัพย์ (ออมทรัพย์)
ชื่อบัญชี ภวัต สนสกุล เลขท่ี่บัญชี 372-222213-0
โอนเงินแล้ว รบกวนแจ้งด้วยนะค่ะ โทร.081-6253542
E-mail : nongwatpramai@gmail.com